คงไม่มีใครอยากเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอของวางเกลื่อนพื้นแน่ ยิ่งถ้าบ้านดูรกสกปรก ไม่เป็นระเบียบ เป็นใครก็ต้องหงุดหงิดจนเกิดความเครียดเป็นธรรมดา แต่หากเราสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ตัวบ้าน พอสองสิ่งนี่ดีแล้ว จิตใจและอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยก็จะดีตามไปด้วย เห็นไหมว่าความเป็นระเบียบของบ้าน ส่งผลต่อความคิดและชีวิตเรามากแค่ไหน ฉะนั้น การให้ความสำคัญกับการจัดบ้านจึงสำคัญมาก ๆ นอกจากจะทำให้บ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยให้เราได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรใหม่ ๆ อีกด้วย ซึ่งการจัดบ้านให้น่าอยู่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ เพียงแค่ปรับเล็กเปลี่ยนน้อยแค่นี้ ก็เหมือนเราได้บ้านหลังใหม่แล้ว!
กำหนดสไตล์การตกแต่งให้บ้านมีความชัดเจน
สไตล์การแต่งบ้าน นอกจากกำหนดจากความชื่นชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงฟังก์ชั่นให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของเราด้วย เพราะว่าเราต้องอยู่ด้วยกันยาว ๆ เลยต้องพิถีพิถันกันหน่อย วันนี้เลยยกตัวอย่าง 3 สไตล์การแต่งบ้านมาแรงที่เป็นที่นิยมมาก ๆ จะมีสไตล์ไหนที่ถูกใจเราบ้างไปดู!
สไตล์มินิมอล
credit : tararomestate.com
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เน้นการตกแต่งด้วยโทนสว่าง พวกสีเอิร์ธโทน เพราะเป็นสีที่ทำให้บรรยากาศในบ้านดูเรียบง่าย สงบ และผ่อนคลาย เพิ่มบรรยากาศอบอุ่น ด้วยเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่น อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการตกแต่งบ้านแบบมินิมอลคือ แสงธรรมชาติ เพราะเน้นความอบอุ่น ดูโปร่ง จึงควรเลือกหน้าต่างหรือประตู ที่แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง
สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก
credit : inspirationdesignbooks.com
Modern Classic จะมีทั้งความคลาสสิกและความโมเดิร์นอยู่ในตัว เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมสไตล์กรีกและโรมัน ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดุดตา ในส่วนองค์ประกอบของโทนสีจะมีความเรียบง่าย ไม่เน้นใช้สีฉูดฉาด คอนเซปต์รวม ๆ คือ สวย ดูแพง ทันสมัย
สไตล์ลอฟท์
credit : banidea.com
ลอฟท์จะเน้นโชว์เนื้อแท้ของผิวและวัสดุ รวมถึงพวกผนังอิฐและผนังปูนเปลือย ปรับสมดุลด้วยงานเฟอร์นิเจอร์ที่มีโทนอบอุ่น หรือจะตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว ก็จะทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น การตกแต่งสไตล์นี้เป็นความดิบปนเท่ ที่ได้รับอิทธิพลจากยุคนึงในตะวันตก ที่มีการเอาโกดังและโรงงานเก่ามาปรับปรุงเป็นบ้าน จนเกิดป็นแรงบันดาลใจได้บ้านสไตล์ลอฟท์แบบนี้ออกมา
สไตล์ทรอปิคอล
credit : bali-interiors.com
Tropical Style คือ การตกแต่งบ้านในประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น บ้านสไตล์นี้มักมีพื้นที่โปร่ง โล่งสบาย มีลมพัดผ่าน ช่วยระบายความร้อนในอากาศได้ดี เน้นความสดใสมีชีวิตชีวา มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุไม้ไผ่สาน งานหวายต่าง ๆ มาประยุกต์ตกแต่ง คลุกเคล้ากับกลิ่นอายธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักร้อน เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจสุด ๆ
การจัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
credit : housebeautiful.com
การจัดวางพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ไม่จำเป็นต้องมีประตูหรือผนังมากั้น เพราะจะทำให้บ้านดูแคบและแออัด เราสามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เพียงเว้นช่องว่างเฟอร์นิเจอร์ของแต่ละส่วน ให้มีพื้นที่กว้างพอที่จะให้ความรู้สึกแยกจากกัน หรือจะใช้พาทิชั่นกั้น ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่นิยมนำไปใช้กันบ่อย เช่น วางพาทิชั่นกั้นระหว่างเตียงที่เป็นโซนห้องนอน กั้นกับโซฟาที่เป็นโซนห้องนั่งเล่น เป็นต้น การแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน นอกจากจะช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบแล้ว ยังลดความแออัดภายในบ้านให้ดูโปร่งโล่ง กว้างน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เนื่องจากขนาดพื้นที่ภายในบ้านที่มีอย่างจำกัด ทำให้เราต้องฉลาดเลือกวางแปลนให้เหมาะกับการใช้งาน และยังคงความสวยงามที่สุด
เคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออก
credit : unsplash.com
การวางของเกะกะ นอกจากจะทำให้บ้านดูไม่เป็นระเบียบแล้ว ยังเป็นเหตุทำให้เกิดฝุ่นละอองที่ส่งผลเสียต่อร่างกายคนในบ้านอีกด้วย เพราะฉะนั้น อีกหนึ่งจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้บ้านจะน่าอยู่ขึ้นได้นั่นก็คือ การทำความสะอาด เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมมากเกินไป นอกจากนี้ ถ้าของมันเยอะเกินไป จนกลายเป็นความรู้สึกรกบ้านเสียเปล่า ก็ควรเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกบ้าง หรือใครเสียดายทิ้งไม่ลงจริง ๆ ก็สามารถเก็บใส่กล่องเตรียมบริจาคก็ได้เช่นกัน แต่ในกรณีที่จัดการไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ซื้อตู้ที่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นและดีไซน์ วางโชว์ของตกแต่งได้ มีช่องเก็บของแบบทึบที่มองเข้าไปแล้วไม่เห็นอะไร เป็นการเคลียร์สายตาให้รู้สึกว่าไม่รกเกินไป
ใช้กระจกตกแต่ง
credit : unsplash.com
สำหรับบ้านหรือคอนโดใครที่มีพื้นที่จำกัด ลองเลือกใช้กระจกมาตกแต่งเพิ่ม นอกจากจะสามารถใช้สอยประโยชน์ได้แล้ว ยังทำให้บ้านดูมีมิติและมีศิลปะ รวมไปถึงมี Mood & Tone ที่ดูเข้ากันอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกเทคนิคสุดฮิตที่ทำให้บ้านของเราดูมีพื้นที่กว้างขึ้น ช่วยลดความรู้สึกอึดอัดได้ไปเยอะเลยทีเดียว
ความสำคัญของแสงธรรมชาติ
credit : roofingoutlet.co.uk
การนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม ต้องคำนึงถึงการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ ควบคู่ไปกับตำแหน่งรับแสงภายในบ้าน แต่โจทย์ปัญหาของการรับแสงเข้ามานั้น ต้องคิดต่ออีกว่า ทำอย่างไรถึงจะได้เพียงแค่แสงสว่าง แต่ไม่ต้องการความร้อนจากแสงแดด ซึ่งแน่นอนว่าจุดนี้สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ แล้วการแสงที่ส่องเข้ามาบ้านดีอย่างไร ? การเปิดรับแสงจากธรรมชาติให้สามารถส่องเข้ามาในตัวบ้านได้นั้น จะทำให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบาย น่าอยู่มากขึ้น แถมยังช่วยประหยัดไฟในช่วงเวลากลางวันได้อีกด้วย เป็นการตกแต่งที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่ดึงประโยชน์ของแสงธรรมชาติ มาช่วยในการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นเท่านั้นเอง
เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ในบ้าน
credit : unsplash.com
ปัจจุบันกระแสปลูกต้นไม้เป็นที่นิยมมาก เป็นเทรนด์ที่แรงไม่มีตกเลยทีเดียว ซึ่งนอกการซื้อต้นไม้เพื่อตกแต่งสวนแล้ว การปลูกต้นไม้ใส่กระถาง วางไว้แต่ละจุดในบ้านก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เพราะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน จะช่วยให้บ้านดูอบอุ่น เหมือนอยู่ใกล้กับแหล่งธรรมชาติ มองแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย แถมต้นไม้บางชนิด เช่น เดหลี พลูด่าง ไทรใบสัก ฯลฯ ยังสามารถช่วยฟอกอากาศ กำจัดสารพิษซึ่งเป็นมลภาวะที่ไม่ดีภายในบ้านได้อีกด้วย!
การจัดบ้านให้น่าอยู่ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เรารู้และเข้าใจพื้นที่ภายในบ้าน มีการจัดแบ่งโซนได้ดี พร้อม ๆ กับเลือกเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ให้เข้ากับสไตล์บ้าน ใส่ใจเรื่องความสวยงามไปพร้อม ๆ กับการใช้งานที่เป็นประโยชน์ เท่านี้ก็ช่วยให้บ้านเล็ก ๆ ที่มีพื้นจำกัดอยู่สบาย โล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด แถมยังเป็นระเบียบขึ้น
Shopee 9.9 Super Shopping Day แคมเปญโปร 9.9 สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! มหกรรมสินค้าลดราคาจัดเต็ม เริ่มต้นเพียง 9.- ถูกคุ้มทุกวันตลอดทั้งแคมเปญ! พร้อมรับโปรโมชั่นส่งฟรีขั้นต่ำ 0.- และพิเศษกว่าที่เคย เก็บโค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 999.- ช้อปได้กับโปรหลากหลายสุดโดนใจ ช้อปได้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. – 9 ก.ย. นี้ที่ Shopee 9.9 Super Shopping Day!